ชาวต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้มั้ย?

ชาวต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้ แต่มีข้อจำกัดและเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตาม โดยสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้:

1.การซื้อคอนโดมิเนียม

สิทธิในการเป็นเจ้าของ:

ชาวต่างชาติสามารถซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ระบุใน พระราชบัญญัติอาคารชุด (Condominium Act) ซึ่งกำหนดว่า ชาวต่างชาติสามารถถือกรรมสิทธิ์ในคอนโดมิเนียมได้ไม่เกิน 49% ของพื้นที่รวมทั้งหมดในอาคาร

ข้อกำหนด:

ชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยต้องโอนเงินมาจากต่างประเทศ เพื่อให้สามารถแสดงที่มาของเงินได้ว่ามาจากต่างชาติ ซึ่งจะช่วยพิสูจน์ว่าเงินที่ใช้ในการซื้อไม่มาจากแหล่งในประเทศ

2.การซื้อบ้าน (Land and House)

การซื้อที่ดิน:

ชาวต่างชาติไม่สามารถซื้อที่ดินในประเทศไทยได้โดยตรง (ยกเว้นในกรณีที่เป็นการลงทุนที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการลงทุนแห่งชาติ หรือ BOI)

การซื้อบ้านในที่ดิน:

ชาวต่างชาติสามารถซื้อบ้านในประเทศไทยได้ แต่ต้องให้ความสำคัญกับข้อจำกัดเกี่ยวกับที่ดิน ซึ่งในกรณีนี้บ้านที่ซื้อจะต้องอยู่บนที่ดินที่เช่าระยะยาว หรือมีการถือครองที่ดินผ่านบริษัท

การเช่าที่ดิน:

ชาวต่างชาติสามารถเช่าที่ดินในระยะยาว (สูงสุด 30 ปี) โดยใช้สัญญาเช่าระยะยาว (Leasehold Agreement) โดยสามารถต่อสัญญาเช่าได้อีก 2 ครั้ง รวมเป็น 90 ปี

การตั้งบริษัท:

อีกหนึ่งวิธีคือการถือครองที่ดินผ่านบริษัทไทย โดยให้ชาวต่างชาติถือหุ้นในบริษัทไม่เกิน 49% และให้คนไทยถือหุ้น 51% ในบริษัทนั้น

3.การซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์สำหรับการลงทุน

การลงทุนจาก BOI (Board of Investment):

สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการลงทุนในประเทศไทย (โดยเฉพาะในธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI) มีข้อยกเว้นให้สามารถซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ได้ เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจ

การตั้งบริษัท:

บางกรณีชาวต่างชาติสามารถถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินผ่านบริษัท ซึ่งต้องจดทะเบียนในประเทศไทย โดยต้องมีผู้ถือหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 51% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท

4.ข้อกำหนดและกฎระเบียบทางกฎหมาย

การอนุญาตจากรัฐ:

ในบางกรณีชาวต่างชาติที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยอาจต้องขออนุญาตจากทางราชการ เช่น การขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยหากเป็นการซื้อที่ดิน

การแสดงแหล่งที่มาของเงิน:

การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติในประเทศไทยต้องแสดงแหล่งที่มาของเงิน เช่น ต้องโอนเงินจากต่างประเทศ

5.ข้อควรระวัง

การตรวจสอบเอกสาร:

ชาวต่างชาติที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ควรตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด เช่น โฉนดที่ดิน สัญญาซื้อขาย และข้อกำหนดเกี่ยวกับการเช่าที่ดินหรือการถือครองอสังหาริมทรัพย์ในบริษัท

การเลือกผู้ให้คำปรึกษา:

เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมีความซับซ้อน การเลือกผู้ให้คำปรึกษาทางกฎหมายหรือผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ

สรุป:

การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยของชาวต่างชาติสามารถทำได้ในบางประเภท เช่น คอนโดมิเนียม (ไม่เกิน 49% ของพื้นที่) และสามารถทำได้โดยผ่านการเช่าที่ดินหรือการถือหุ้นในบริษัทไทย หากต้องการซื้อบ้านหรือที่ดิน แต่อย่างไรก็ตาม ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายในอนาคต